อากาศหนาวๆ หากอยู่ในเมืองหลวงคงไม่รู้สึกเสียเท่าไร แต่หลาย ๆ คนฝันและคิดถึงอากาศเย็นยะเยือก ท่ามกลาง ทะเลหมอกยามเช้า พระอาทิตย์ลอยเด่นส่งแสงสีแดงส้มเหนือทิวเขา ใครหลาย ๆ คนคงเคยเห็นและไปเที่ยวกันมาแล้ว อย่างน้อยสักครั้งในชีวิต แต่ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่คิดที่ไปในหนาวปีนี้ ก็ลองชมเรียกน้ำย่อยกันสักหน่อยดีกว่าครับ
เมื่อยามลมหนาวมาเยือน ทุกคนต้องคิดถึงสถานที่เที่ยวอย่างเมืองเหนือ และเมืองเหนือที่ถูกทุกคนคิดถึงมากที่สุด ก็คือ เชียงใหม่ ปัจจุบันเชียงใหม่ ถูกความเจริญรุกคืบเข้าไปมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย เพื่อรองรับการท่องเที่ยวให้กับ นักท่องเที่ยว นักเดินทาง ทุกผู้ทุกนาม อีกทั้งเป็นศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ในภาคเหนือของเมืองไทย
แต่ท่านที่ต้องการมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติแห่งความสวยงามของธรรมชาติ และวัฒนธรรม เมืองเหนืออันดับรองลงมา ก็คงจะหนีไม่พ้นเป็น จังหวัดเชียงราย
เมื่อพูดถึงเชียงฮาย เรามักนึกถึงอะไรที่เชียงราย ความสวยงามของพระตำหนักดอยตุง พระธาตุดอยตุง ภูชีฟ้า สามเหลี่ยมทองคำ หรือนักช็อปก็ต้อง ตลาดท่าขี้เหล็กแม่สาย ถนนคนเดินในตัวเมืองเชียงราย
เชียงรายจึงเป็นอะไรที่น่าท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย เชื่อได้เลยว่าเที่ยวกันเป็นเดือนก็ยังไม่ทั่ว และที่เป็นที่กล่าวขานกันมากที่สุด เป็นสถานที่น่าสนใจอีกแห่งคือ วัดร่องขุ่น พุทธศิลป์แห่งแผ่นดิน ที่ถูกบรรจงสร้างอย่างวิจิตร จากศิลปินเอก อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ความวิจิตรงดงามของพระอุโบสถ เปรียบเหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ ท่านที่ยังมิเคยไปสัมผัสก็ขอแนะนำไว้ตรงนี้เลยครับ
ส่วนที่พักในบรรยากาศแบบอิงธรรมชาติก็ขอแนะนำ คือ “ ดอยห่มฟ้ารีสอร์ท “ ที่เป็นที่พักที่น่าพักผ่อน บรรยากาศแบบอิงธรรมชาติกันเลย ต้องลงแพข้ามน้ำกันไปยังที่พัก เราจะได้อากาศบริสุทธิ์ยามเช้า ได้ดูทะเลหมอก ได้สดชื่นกับแสงแรกของวัน เมื่อพระอาทิตย์ประกฎพ้นเทือกเขาในยามเช้าแล้ว ไปพักผ่อนหย่อนกายกันด้วยอีกที่ ด้วย สปาแบบธรรมชาติ ณ ที่พักอันเงียบสงบ ที่ “ภูใจใส”
ไปชมกันเต็ม ๆ คลิกที่นี่ และ ที่นี่
ไปชมกันเต็ม ๆ คลิกที่นี่ และ ที่นี่
อีกจังหวัดที่เรื่อยลงมาทางใต้ของจังหวัดเชียงราย คือ จังหวัดพะเยา พะเยาเหมือนจังหวัดที่อาภัพนัก หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า จังหวัดนี้มีอะไรน่าท่องเที่ยว นอกจากจะได้ยินเรื่องกว๊านพะเยา และ สาวดอกคำใต้
จริง ๆ จังหวัดพะเยามีที่เที่ยวมากมาย ที่สวยงามอิงธรรมชาติและวัฒนธรรม มารู้จักที่เที่ยวในจังหวัดพะเยากันสักหน่อย
นอกจากเราจะได้ไปแอ่วกว๊านพะเยาเพื่อชมความงาม ได้นั่งทานอาหาร รับลมชมบรรยากาศบริเวณริมกว๊าน ที่รสชาติอร่อยหลายร้าน และได้ช็อปปิ้งกันแล้ว
อยากจะแนะนำที่ท่องเที่ยวที่น้อยคนนักจะเคยไป แต่มีความสวยงามวิจิตรไม่แพ้ที่ใด ที่นั่นคือ ดอยบุษราคัม ซึ่งเป็นที่ตั้งของ วัดอนาลโยทิพยาราม ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัม บ้านสันป่าม่วง หมู่ที่ 6 ต.สันป่าม่วง จากตัวเมืองไปตามเส้นทางพะเยา-เชียงราย ประมาณ 7 กม. ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 20 นาที
วัดอนาลโย สร้างโดยพระปัญญาพิศาลเถร (พระอาจารย์ไพบูลย์ ฯ) เป็นอุทยานพระพุทธศาสนาที่ทีความสวยงาม เช่น พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยองค์ใหญ่ พระพุทธรูปปางต่าง ๆ พระพุทธลีลา พระพุทธคยา เก๋งจีน ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว หอพระแก้วมรกตจำลองทำด้วยทองคำ
บรรยากาศร่มครึ้ม เย็นสบาย สวยงามเต็มไปด้วย ศิลปะวิจิตรตระการตา เราค่อย ๆ เดินขึ้นบันไดเที่ยวชมบริเวณวัด ( ซึ่งไม่ได้นับขั้นบันได แต่ เหนื่อยพอดู ) และขึ้นไปยังหอพระ ต๊กกะใจ สงสัย ทำไม มีทหารถืออาวุธเฝ้าอยู่ด้วย นี่เป็นเขตล่อแหลมชายแดนหรืออย่างไร ปรากฏว่าในหอพระมีพระพุทธรูป ทองคำ ฝังเพชรเม็ดเป้ง ๆ หลายองค์ รวมไปถึงต้นบุษราคัมแท้ ๆ ตั้งบูชา ทั้งหมดอยู่ในตู้นิรภัย ให้เราได้กราบไว้ รวมถึงชมความงดงามอย่างสงบ ใครที่ไปต้องเยี่ยมชมกันหน่อยนะครับ
นอกจากนี้ยังมีศิลปะการแกะสลักไม้ เป็นบานประตูจากไม้สักทั้งต้น รวมถึงบริเวณพุทธสถานอันเป็นที่ปฏิบัติธรรมต่าง ๆ สวยงามเป็นอย่างยิ่ง และที่พลาดไม่ได้ คือ พระแม่กวนอิมสลักจากหยกขาว ที่วิหารจีนด้านใน ท่านใดที่นับถือก็ย่อมไม่พลาดที่จะเข้าไปกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองแน่นอน
บริเวณดอยบุษราคัม นอกจาก วัดอนาลโย เลยขึ้นไปหน่อย ยังเป็นที่ตั้งของ แหล่งท่องเที่ยวอันสงบสวยงาม ของน้ำตกเล็ก ๆ คือ น้ำตกจำปาทอง อีกด้วย ใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ เมื่อไปถึงวัดอนาลโยแล้ว ก็อย่าลืมแวะไปด้วยล่ะ
เมืองเหนือ ยังเต็มไปด้วยมนต์ขลัง ที่จูงใจให้คนที่เคยไปมาแล้วอยากไปอีก ใครที่ยังไม่เคยไปก็ใฝ่ฝัน ว่าสักวันจะได้ไป ประเทศไทย เป็นอะไรที่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวโดยไม่รู้เบื่อรู้หน่าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น